ให้นักศึกษา ระบุถึงรายละเอียดของแนวคิดเบื้องต้นของพิพิธภัณฑ์หรือนิทรรศการที่นักศึกษากำนด
โดยแสดงการวิเคราะห์และแสดงความคิดให้ลึกซึ้ง กว้างขวางมากขึ้น รวมไปถึงให้แสดงแนวคิดในการจัดแสดง
เนื้อหาในการจัดแสดง หรืออื่น ๆ ที่จะทำให้ "โครงการ" ของนักศึกษามีความชัดเจนมากขึ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
27 ความคิดเห็น:
แนวคิดในการออกแบบ
พิพิภัณฑ์ ความสุขที่แท้จริงคืออะไร??
คือการจัดแสดงให้ผู้เข้าชมได้เลือกในทางเดิน ซึ่งได้จัดวางทางเดินเป็นหลายๆแพร่ง
แต่ละแพร่งใช้สีในโทนที่แตกต่างกันออกไป
เพื่อให้ผู้เข้าชม ได้เลือกเดินไปในแพร่งไหน
ซึ่งแต่ละทางเดิน จะใช้สีที่สื่อต่อการจัดแสดง
เช่น การระลึกถึงอดีต จะใช้โทน ซีเปีย
sex จะใช้สีที่ออกทำให้ดูแล้วเกิดความลุ่มหลง
การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ใช้สีที่สบายตา ดูแล้วสดชื่นมีความสุข
การออกแบบต้องคำนึงถึงเรทของผู้เข้าชมด้วย
ซึ่งทางในแต่ละแพร่งจะเป็นทางตัน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เดินย้อนกลับมาเพื่อดูในส่วนของแพร่งอื่น ให้ผู้เข้าชม
ได้"ชั่งใจ" และ "ต่อสู้กับความคิดตัวเอง"
***ว่าสิ่งไหนที่เขารู้สึกมีความสุข"ที่สุด"
พิพิธภัณฑ์ ราชทัณฑ์
งานออกแบบคงจะเน้นเรื่องการแสดงตัวอย่างของบทลงโทษ..
อาจมีการใช้หุ่นขี้ผึ้งมาแสดงท่าทางการโดนทรมานแบบพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง..เพื่อให้เห็นถึงสีหน้าตอนโดนทรมานหรือตอนโดนประหาร..พร้อมจัดแสงสีเพื่อเร้าความรู้สึกของผู้เข้าชม..
ภายในพิพิธภัณฑ์อาจแบ่งเป็นโซน แต่เนื้อเรื่องของแต่ละโซนก็จะต่อเนื่องกัน
และจัดให้มีเสียงของนักโทษที่ทรมานเวลาก่อนถูกประหาร หรือ อยากออกไปหาคนที่รออยู่ภายนอก
ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เข้าชมที่มาเป็นครอบครัวมีโอกาสสอนบุตรหลานของตัวเอง
................................
แนวคิดในการออกแบบ
พิพิธภัณฑ์ การฆาตรกรรมไทย
ต้องการจัดแสดงให้เป็นฉากๆ โดยแบ่งเป็นห้องๆ ห้องละคดี แต่ละห้องจะกว้างๆมากๆ มืดๆเย็นๆ มีไฟส่องเฉพาะจุด เป็นฉากๆเล่าถึงวิธีการคิดของฆาตกรจนถึงตอนถูกจับ โดยผู้ชมจะได้ยินเพียงเสียงเท้าเดิน แต่จะมองไม่เห็นทางเดิน บังคับทางเดินคือต้องเดินตามการเล่าเรื่อง(ไฟส่อง) ไปเป็นฉากๆเท่านั้น ไม่สามารถใช้เส้นทางอื่นได้ นอกจากเดินเร็วๆ แต่ละบอร์ดหากไปยืนตรงฉากใด ก็จะมีเสียงประกอบเป็นเพียงของฆาตกรเล่าเรื่องบ้าง ตำรวจชี้แจงบ้าง ผู้พบเห็นเหตุการณ์บ้าง ที่เกี่ยวข้องกะฉากๆนั้น
เพราะต้องการให้ผู้ชม กลัว ตกใจ เร้าใจ และขนลุกแต่แฝงด้วยสาระความรู้ ของคดีการฆาตกรรมไทยในแบบต่างๆ
แนวคิดในการออกแบบ : พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์
ออกแบบโดยเน้นความเสมือนจริงในเรื่องกระบวนการย่อยอาหาร และระบบสูปฉีดโลหิต เหมือนเราเดินอยู๋ในร่างกายของ คนๆนึง และ แสดงให้เห็นถึงกลไกการทำงานของร่างกาย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในการทำงานง่ายขึ้นเนื่องจากได้เห็นภาพจริง
โดย แบ่งเป็น 2 เรื่องใหญ่ๆ
1 ระบบย่อยอาหาร ลำดับการจัดแสดงโดยเริ่มจาก จัดให้ทางเข้าเป็นส่วนปากตามลำดับจนถึงทางออกเป็นลำไส้ใหญ่
2 ระบบสูบฉีดโลหิต โดยเริ่มตั้งแต่หัวใจไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย
โซ่
พิพิธภัณฑ์ มด
จะเป็นการจัดเเสดงให้ผู้เข้าชมเห็นถึงการ ทำงานของมดซึ่งเป็นสัตว์เล็กๆที่ช่วยกันทำงานร่วมเเรงกัน สามัคคีกัน เพื่อให้ผู้ที่เข้าชมได้เปรียบกับตัวเองว่ามดเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กก็จิงแต่มันได้ช่วยกันร่วมเเรงสามัคคีทำงานและป้องกันศัตรู
ในการออกแบบ จะมีการออกแบบเป็นการจำลองสภาพการใช้ชีวิตของมดเป็นช่วงๆเริ่มจาก
การหาอาหารซึ่งมดมันจะมีวิธีการทำงานในแต่ละฤดูไม่เหมือนกานมันจะเเบ่งงานกันทำว่าใครทำหน้าทีอะไร และมดจะมีวิธีการป้องกันศัตรูที่ทำกันเป็นทีม และสร้างบรรยากาศภายในพิฑิธภัณฑ์ ให้ผู้ชมรูสึกเหมือนอยู่ในเมืองมด เพื่อให้เกิดความเข้าใจสภาพชีวิตของมดมากขึ้น
พิพิธภัณฑ์ ดินสอ
จะแบ้งออกเป็น 2 หัวข้อใหญ่และเป็นโซนในการแสดงงานโดยทางเดิน 2เส้นทางหลัก และมีทางย่ยในทางที่สองตามหัวข้อ โยสุดทางจะไปที่จุดเดียวกัน คือดินสอในทุกวันนี้ที่เราเห็นกันบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความประทับใจในดินสอเพราะกิจกรรมละหว่างทางจะมีให้ด้ายเจอความลำบากที่ไม่มีดินสอในด้านของความเป็นมาและประทับใจกับงานศิลปะที่ใช้ดินสอทำหรือประกอบนิยายบันทึกการลงนามหรืออื่นๆที่มีดินสอเข้าไปเกี่ยว
ทั้ง2ทางความประทับใจจะต่างกันที่ความรู้สึก
เพราะทางที่
1. กว่าจะเป็นดินสอ คือหนทางการผลิตการคิดจากก่อนเคื่องเขียนแบบต้นๆจนกลายมาเป็นดินสอถึงดินสอกด จะทำรักดินสอและเห็นมันมีค่ามากขึ้น
2. ดินสอทำอะไรได้บ้าง จะประทับใจในสิ่งที่สร้างออกมาจากปลายดินสอ
2.1 เป็นการบันทึกและอื่นๆ
2.2 ใช้สร้างงานศิลปะ
โดยไปทางไหนก็สุดที่จุดเดียวกัน
แนวคิดในการออกแบบ "พิพิธภัณฑ์ ผ้าไทย" คือ
การนำสีและลวดลายของผ้าในแต่ละจังหวัดมาใช้เป็นตัวแบ่งพื้นที่จัดแสดง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แสดงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้านในสมัยก่อน
มีการนำแฟชั่นมาผสมผสานในการจัดแสดงเพื่องการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย สื่อถึงความทันสมัยโดยการใช้สีสันสดใสและลายไทยประยุกต์ในการออกแบบเพื่อดึงดูดผู้ชม และสร้างทัศนคติที่ดีต่อผ้าไทย
แนวความคิดในการออกแบบ
พิพิธภัณฑ์กอล์ฟ
- คิดว่าสมัยนี้กีฬากอล์ฟได้มีความนิยมเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีแนวความคิดว่าได้มีการจัดแสดงประวัติของกีฬากอล์ฟตั้งแต่เริ่มมีกีฬากอล์ฟร่วมไปถึงจัดแสดงถึงอุปกรณ์ที่มีการพัฒนามาตั้งแต่สมัยก่อนจนมาถึงปัจจุบันนี้ เพื่อที่ต้องการให้ผู้ชื่นชมและอยากเล่นกอล์ฟนั้นได้มีความรู้เพิ่มเติมและสนุกกับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์นี้ด้วย
- ในการจัดแสดงเนื้อหาจะมีการจัดแสดงแบ่งออกเป็นมีที่สอนตีกอล์ฟ มีที่จัดแสดงอุปกรณ์ต่างๆ มีที่บอกประวัติต่างๆ รวมไปถึงมีเทคนิกจัดแสดงให้มีความสนใจอีกด้วย ภานในก้จะเอา lay out สนามกอล์ฟมาใช้เป็นทางเดินระหว่างทางเดินนั้นก็จะแบ่งเป็นหลุมๆ แต่ละหลุมก็จะมีเนื้อหาหรือเทคนิกจัดแสดงต่างกันไปเราจะบังคับเดินตามหลุมๆไปเป็นหลุมๆ
ด้านประวัติก็จะมีบอร์ดจัดแสดงกล่าวถึงประวัติต่างๆของกีฬากอล์ฟ ต่อมาก็เดินไปตามหลุมแต่ละหลุมก็จะมีอุปกรณ์จัดแสดง แล้วสุดท้ายก็มีการสอนเป็นให้ได้ทดลอง ทำให้ผู้ที่เข้าชมได้รู้สึกอยากเกิดการเล่นกอล์ฟสีที่นำมาใช้ก็จะจำลองให้เหมอืนสนามจริงๆ ใช้สีเขียวเข้ม เขียวอ่อน มีหลุมทรายวางไว้ด้วยๆ สุดท้ายก็จะมีการขายของหลังจากที่ได้เดินมาตลอดทาง
ป่าน
พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ดนตรี
จัดแสดงเป็นยุคตั้งแต่ยุคแรกๆที่มนุษย์รู้จักการใช้อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียง ยุคดนตรีคลาสสิค จนถึงปัจุบัน แบ่งเป็นทางเดิน ให้ผู้ชมเลือกวาอยากไปทางดนตรีแนวไหน ตามทางเดินก็มีคนตรี ตกแต่งห้องตาม
ดนตีรนั้น
พิพิธภัณฑ์พับกระดาษ
การจัดแสดงจะไล่ตั้งแต่ เรื่องราวของการเกิดกระดาษ
ไล่มาถึงการพับกระดาษสมัยแรกๆ
ต่อมาก็จะแสดงถึงประวัติ ผลงาน แนวคิดของ ศิลปิน
ที่คิดต้นแบบการพับกระดาษในสมัยแรกๆ ที่ทำให้มีพื้นฐานที่เป็นระบบ
ต่อมาคือการพับกระดาษที่กระจายไปทั่วโลก จนมีศิลปินที่เก่งๆเกิดมากมาย รูปแบบการพับก็ไม่เหมือนกันแสดงความแตกต่างของแนวคิดในแต่ละทวีป หรือ ประเทศ
อันสุดท้ายเป็นการพับกระดาษในอนาคต เป็นการนำการพับไปประยุกต์ใช้ในงานสาขาต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรม แฟชั่น etc.
พิพิธภัณฑ์ราชนาวีไทย
แนวคิดของพิพิธภัณฑ์เป็นการกล่าวถึงหน้าที่ของชายไทยที่ถูกปลูกฝังมาในเรื่องของการรักชาติการมีบทบาทหน้าที่ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้รู้จักกับหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองดังอาชีพทหารเรือ แต่ สิ่งที่เหนือจากคำว่า บทบาทและหน้าที่ สิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด คือ ความเสียสละ นั้นคือเครื่องหมายที่สามารถแสดงออกถึงความรักชาติโดยแท้
( การจัดแสดงจะมีเนื้อหาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ )
การจัดแสดงนั้นอาจจะเน้นไปที่พฤติกรรมของผู้เข้าชมโดยใช้พื้นที่เป็นตัวกำหนดพร้อมกับเล่าเรื่องไปตามลำดับของเนื้อหาการจัดแสดง เช่น ในพื้นที่ที่เล่าเรื่องราวจะมีเสียงยุทธโธปกรณ์ในสงคราม และ เสียงของทหารที่ถูกยิง และ อุณหภูมิของโซนที่จัดแสดง พร้อมกับพื้นและการเดินชมที่อยากลำบากที่ประยุกต์มาจากการรบหลีกกระสุนหรือยุทธโปกรณ์อื่นๆ จะสะท้อนให้เรานึกถึงหน้าที่ที่ยากลำบากของราชนาวีไทยที่ได้เสียสละให้กับความรักชาติ
ซึ้งจะทำให้สำนึกถึงตัวเราเองว่าเหล่าราชนาวีไทยได้ทำหน้าที่รักชาติ นั้นคือ ความเสียสละ นั้นคือเครื่องหมายที่สามารถแสดงออกถึงความรักชาติโดยแท้ แล้วนิยามของความรักชาติของคุณเป็นแบบไหน?
พิพิภัณฑ์ บะหมีวัดลุ่ม
-เมื่อเข้ามาในพิพิภัณฑ์นี้จะเห็นหมู่บ้านบะหมี่ที่มีชื่อเสียงในช่วง100ปีที่ผ่านมา เช่นมีร้านบะหมี่ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น 7 ร้านเราก็จะให้จัดหน้าร้านให้เข้ากับยุคในช่วงเวลา100ปีและผู้คนที่อยู่ในพิพิภัณฑ์ก็จะแต่งตัวอยู่ในสมัยนั้น
-และในแต่ละร้านก็จะมีความแตกต่างกันไปในการทำหรือการใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันไป
[ส่วนนี้สามารถกินได้จริง]
-หลังจากอิ่มอร่อยกันแล้วก็สามารถซื้อของกับบ้านหรือของฝากจากพิพิภัณฑ์แห่งนี้ที่มีโลโก้เป็นบะหมี่วัดลุ่ม
พิพิธภัณฑ์ รองเท้า
1.แสดงประวัติศาสตร์รองเท้าตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน
แบ่งเป็นห้องตามยุคสมัย
2.แสดงวิธีการทำรองเท้าโดยการแบ่งโซนส่วนประกอบของรองเท้า เช่น เชือก ยาง ผ้า พื้น
3.แสดงคุณค่าของรองเท้า ด้วยการใช้ บรรยากาศ และ พื้นที่ สร้างให้เกิดความรู้สึก เช่น เดินเวลาฝนตก เดินตอนเที่ยง เดินที่ไม่ปกติ โดยต้องการให้คนเกิดจิตสำนึกใน ความรักรองเท้า และสร้างคำถามผู้ชมว่า
" คุณดูแลเค้าดีรึยัง"หรือ เกิดคำถามอื่นๆ
พิพิธภัณฑ์ภาษาไทย
แสดงให้เห็นเอกลักษณ์ และความน่าสนใจของภาษาไทย
ที่มีทั้งการสะกดใและการออกเสียง ได้หลากหลาย
ความสวยงามของโคลง กาพย์ กลอน
สัมผัส สระ อักษร
โดยแบ่งเป็นส่วนๆ ตั้งแต่ส่วนของประวัติ
ตั้งแต่อดีตจนมาถึงยุคปัจจุบันซึ่งการใช้ภาษาแตกต่าง
กันไป โดยแต่ละช่วงจะมีบรรยากาศแตกต่างกันไป
-ส่วนของประวัติใช้บรรยากาศซึ่งมีความโบราณ
-ส่วนของกาพย์ กลอน จัดแสดงผ่านแผ่นกระดานโบราณ
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ
-ส่วนรูปแบบการเขียน การสะกด ใช้กระดานดำให้ดูเหมือนบรรยากาศในห้องเรียน
-มีเอกสารประกอบการชม เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น บวกกับมีเกร็ดความรู้ในเอกสาร
พิพิธพัณธ์ Drawing and painting
อยากให้ผู้เข้ามาชม พิพิธภัณฑ์นึกอยากวาดรูปขึ้นมารูปนึง ที่เเสดงให้เห็นถึง ศิลปะในการสร้างารรค์โดยคำนึงถึงเเนวคิดศิลปิน ในศตวรรษที่ 16 -18 โดยพิพิธภัณฑ์ จะเเสดงให้เห็นถึงเเนวคิดริเริ่มในการสสร้างสรรผลงานในยุคนี้ที่ดูมีเรื่องราวต่างๆถูกเล่าออกมาจากฝีมือศิลปินในยุคดังกล่าวไม่ใช่แค่เรื่องราวของยุคสมัยแต่ยังกล่าวถึงวิวัฒธนาการของการวาดรูปในแบบต่างๆของศิลปิน
พิพิธภัณฑ์เพศ
Gender Museum
อยากให้ผู้ที่มาชมนิทรรศการแล้ว เข้าใจในความเท่าเทียมกันของทุกเพศ เลิกกีดกันสิทธิเสรีภาพของเพศต่างๆ เปิดวิสัยทัศน์ในการมองคุณค่าของคนๆนึงนอกจากคำว่า"เพศ"แสดงให้เห็นถึงกระบวนการของการเกิดเพศต่างๆจากโครโมโซม กลไลที่ทำให้หญิงและชายเกิดความแตกต่างกันทางเพศ และปัจจัยที่ทำให้เกิดการเบี่ยงเบน ปัญหาการกีดกันทางเพศ ความมหัศจรรย์ของเพศที่ 3 ในส่วนของเนื้อหาจะนำเสนอในรูปแบบของงานศิลปะ ให้ผู้เข้าชมตีความโดยใช้ความรู้สึก โดยมีไกด์ไลน์ที่จะคอยชี้นำบ้าง
พิพิธภัณฑ์ กระดาษ
จะมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของการเกิดกระดาษให้ผู้เข้าชมได้รู้จัดกับมันก่อนและนำเสนอการเปลี่ยนแปลงของกระดาษจากเริ่มแรกจึงถึงปัจจุบัน
เมื่อรู้จักกันแล้วมุนษย์เริ่มใช้กระดาษมากขึ้นก็จะทำผู้ชมเข้าไปเห็นถึงจากเปลี่ยนแปลงของกระดาษและสิ่งแวดล้อนไปพร้อมกัน
-การจัดแสดงจะให้ขนาดของพื้นที่จากเล็กไปใหญ่เปลี่ยบเหมือนการใช้ของมุนษย์
-ให้คนเข้าไปชมในห้องกระจกซึ่งมีขนาดตามกระดาษมาตรฐานหลายขนาดอยู่บริเวณรอบห้องและมีต้นไม้อยู่ตรงกลางห้องให้สะท้อนออกมาให้เห็นผลจากใช้อย่างไม่เห็นคุณค่า
เมื่อกระดาษถูกกายมาเป็นขยะแล้วมันสามารถทำประโยนช์อะไรได้อีกนอกจากคำว่าขยะ
จึงจะทำให้เห็นว่าขยะสามารถเกิดข้นใหม่มาเป็นอะไรได้บาง
แนวความคิดในการออกแบบ
พิพิภัณฑ์ ศัลยกกรม
การออกแบบเน้นเหมือนกับการมาเล่นเกมเพื่อให้เกิดความสนุกและไม่น่าเบื่อ
ก่อนเข้าชมจะให้ผู้ที่เข้าชมได้ตั้งคำถามกับตนเองว่า
- ต้องการทำศัลยกรรม
- ไม่ต้องการทำศัลยกกรม
ด้วยห้องตอบคำถามขนาดเล็กโดยสร้างบรรยากาศด้วยภาพและเสียงวิธีการทำศัลยกรรม และคนที่ทำมาแล้ว สลับกันเพื่อให้เกิดความชั่งใจในการตอบคำถาม
และจัดแสดงให้ดูเสมือนจริงในการทำศัลยกกรม
ตั้งแต่การริเริ่มที่จะทำ ว่าทำไมต้องการที่จะทำศัลยกรรม ด้วยแนวความคิดแบบจิตวิทยา
และการนำเอาเรื่องราว วิธีการทำศัลยกรรม ความน่ากลัว ด้วยหุ่นจำลอง การใช้สี เสียง ในการทำศัลยกรรมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย
ตลอดจนประสบความสำเร็จในการทำศัยกรรม และผลกระทบที่ได้รับ เพื่อให้เกิดความแน่ใจแล้วหรอที่จะทำศัลยกรรม
เกิดขึ้นในความคิดของคุณ หรือฉัน/ผมต้องการจะทำเมื่อชมเสร็จแล้ว
พิพิธภัณฑ์ ศิลปะการแสดง
แนวความคิดในการออกแบบ ?
บอกถึงการดำเนินเรื่องหรือขั้นตอนการเล่าเรื่องโดยผ่านการหยิบหนังสือวรรณกรรมขึ้นมาอ่านหนึ่งเรื่องเราก็จะแบ่งส่วนของหนังสือออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆคือ
1. ส่วนของคำนำและสารบัญก็จะเปรียบเสมือนการแนะนำหรือการให้ความรู้เบื้องต้นของศิลปะการแสดงของไทย
2. ส่วนของเนื้อเรื่องก็จะเปรียบเสมือนเนื้อหาที่เข้มข้นของการจัดแสดง เพื่อที่ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ไม่น่าเบื่อ ส่วนนี้ก็จะเป็นส่วนที่เปิดจิตนาการของผู้ชม โดยผ่านฉากของหนังตะลุงหรือหนังใหญ่ การเปิดจินตนาการก็คือ การแสดงหนังตะลุงหรือหนังใหญ่นั้นจะแสดงออกมาให้สนุกก็ขึ้นอยู่กับตัวคนเชิดตัวหนัง ฉะนั้นเราก็จะเปรียบผู้เข้าชมเป็นเหมือนผู้เชิดตัวหนัง หรือให้แสดงเป็นตัวละครนั้นๆๆไป
3. ส่วนสุดท้ายของหนังสือก็จะเป็นบทสรุปหรือคติข้อคิดต่างๆ เราก็จะเอาส่วนนี้เป็นส่วนเปิดใจของผู้เข้ามาใช้พิพิธภัณฑ์ว่าเขาได้อะไรหรือเขาประทับใจอะไรเพื่อเป็นการตอกย้ำให้เกิดกระบวนการคิดหลังจากออกจากพิพิธภัณฑ์นี้
พิพิธภัณฑ์โดมิโน่ (Domino)
แนวคิดในการออกแบบ
"จงกล้าที่จะสร้าง เพียงเพราะว่าอยากทำ แต่อย่ากลัวที่จะต้องโดนวิจารณ์ งานสร้างสรรค์จากจินตนาการความเป็นตัวต้นของเรา"
-เริ่มจากได้เห็นคุณค่าของตัวต่อโดมิโน่ที่เป็นได้มากกว่าเป็นเกมตัวต่อ สามารถสร้าง งานสร้างสรรค์จากตัวต่อที่เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ซึ่งทุกๆชิ้นเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างงานจากจินตนาการ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความพยายาม
-โดยรวม ในพิพิธภัณฑ์โดมิโน่ จะกล่าวถึงประวัติความเป็นมา วิวัฒนาการตั้งแต่อดีตจนมาเป็นงานสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ ไม่เพียงแต่เด็กๆ ผู้ใหญ่ก็เข้ามาใช้บริการได้ จะช่วยในเรื่องสมาธิ ความละเอียดอ่อน รอบคอบ และเห็นถึงการทำงานอย่างมีระบบ ของกลไกการเคลื่อนที่ของตัวต่อชิ้นเล็กๆ
-ทราบถึงสิ่งเล็กๆทุกชิ้นนั้นมีความสำคัญทำให้งานสมบูรณ์แบบ ออกมาเป็นงานสร้างสรรค์ศิลปะ ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของการล้มลงของโดมิโน่อย่างต่อเนื่องจนล้มลงและสิ้นสุดในชิ้นสุดท้าย
พิพิธภัณฑ์ ผู้สร้างโลก
Museum of God
เบิ้องต้น จะ แสดงถึง ประวัติของบุคคลที่คิดจะสร้าง โลกในแบบของตนเอง และผลลัพธ์ที่ได้มาจากการกระทำ
เช่น สตาลิน(Josif Dzhugashvili Stalin)
,ฮิตเลอร์(Adolf Hitler) ,เหมา เจ๋อ ตุง(Mao Tse-tung) ,ปรีดี พนมยงค์ เป็นต้น
จัดแสดงโดยผู้เข้าชม ได้เลือก โลกว่าให้เป็นอย่างไรเป็นแบบไหน โดยอาจผ่านทางเครื่อง ที่คล้าย slot
แนวคิดในการออกแบบ
พิพิภัณฑ์ เป่าแก้ว
-แนวการออกแบบคือจะจัดแสดงจะนำเอางานเป่าแก้วต่างๆมานำเสนอและเอาวิธีขึ้นตอนต่างๆมาเป็นตัวกำหนดนิทรรศการ
ในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็นห้องต่างๆๆเพื่อนำเสนอขั้นตอนของการเป่าแก้วควบคู่กับกิจกรรมส่วนรวมขอผู้ที่เข้ามาชมตัวพิพิธภัณฑ์ และ มีส่วนที่ให้ความรู้ในเรื่องของแก้วความเป็นมาเป็นอย่างไรหรือการรีไซเคิลแก้วทำอย่างไร
ท้ายนี้ต้องการให้ผู้ที่เข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ ได้รู้ว่าแก้วไม่ได้เป็นแค่แก้ว แก้วสามารถทำอาไรได้มากว่าเป้นภาชนะ
พิพิธภัณฑ์ Museum of Rock
หากคุณชอบในแนวดนตรีร๊อค ที่นีจะเป็นแหล่งของชาวร็อค เพราะที่นี่จะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของดนตรีร็อค จะย้อนกลับไปตั้งแต่การกำเนิดดนตรีร๊อคว่ามาได้อย่างไร พัฒนามาได้ไกลขนาดไหน แล้วใครคือตำนานที่ไม่มีวันตาย ฯลฯ
การจัดแสดงจะแบ่งเป็นออกเป็น 7 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นส่วนห้องที่แนะนำพิพิธภัณฑ์เกริ่นนำเรื่องราวภายในพิพิธภัณฑ์อาจจะเป็นห้องฉายวิดีทัศน์
ส่วนที่ 2 The Beginnings ส่วนนี้จะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของการกำเนิดดนตรีแนวร็อคแอนโร การมาผสมกันของแนวดนตรีต่างๆ
ส่วนที่ 3 The Golden Age 1967-70 ส่วนนี้จะบอกเล่าเรื่องราวการพัฒนาการของแนวดนตรีร็อคในยุค The Sixties การแตกแขนงจนเกิดแนวต่างๆ
ส่วนที่ 4 และ ส่วนที่ 5 จะเป็นส่วนการพัฒนาของยุค The Seventies และ Punk and New Wave 1976-1989
ส่วนที่ 6 และ ส่วนที่ 7 จะเป็นส่วนของยุค The Nineties และ 2000 ซึ่งในยุคนี้มีความสำคัญอย่างมากและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง มีการแตกแขนงอีกมากมาย
ทุกส่วนจะมีจุดศูนย์กลางที่ส่วนแรกสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ อาจจะมีเกมส์หรือกิจกรรมต่างๆในแต่ละส่วน เช่น อาจจะมีกิจกรรมให้ผูที่เข้ามาชมได้ทดลองนำเสียงและดนตรีในแนวต่างๆนำมาผสมกันผู้ชมอาจจะสามารถสร้างแนวดนตรีใหม่ๆขึ้นมาได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้รับความรู้ และ ความเพลิดเพลินในการชมพิพิธภัณ์
แสดงความคิดเห็น